เมื่อถึงจุดอิ่มตัวกับงานที่ทำ
เชื่อว่ามีหลายคนเลย ที่จะมาเริ่มครุ่นคิดตั้งข้อสงสัยกับชีวิตในช่วงนี้ ว่ากำลังเอาเวลาชีวิตและเงินรายได้ที่ไปเหนื่อยกายเหนื่อยสมองหามานั้น ส่วนหนึ่งเกือบครึ่งถูกนำกลับไปเป็นค่าใช้จ่ายคืนให้กับบริษัท กับคนอื่นๆที่ไม่ใช่ครอบครัวอยู่หรือไม่
อย่างพนักงานบริษัทกินเงินเดือน หรือคนพอมีทุนออมอยู่บ้าง
พอเงินเดือนออกก็ต้องนำกลับมาเป็นค่าใช้จ่ายในเดือนถัดไป ทั้งจ่ายเป็นค่าเดือนทาง ค่าอาหาร และที่ต้องจ่ายเป็นประจำอยู่แล้ว หรืออาจต้องจ่ายโดยไม่ได้คาดคิดเอาไว้ก็มี อย่างเงินออม เงินเก็บ เงินทุน ก็มีไม่น้อยเลยสำหรับคนมีฝัน อยากรวยง่าย อยากสบายเร็วๆ วาดหวังเอาเงินเก็บออมก้อนน้อย ปั่นให้กลายเป็นเงินก้อนโต โดยใช้เงินทำงานแทนตนเอง บ้างก็ปล่อยกู้ บ้างก็เล่นหุ้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามาส่วนใหญ่กว่า 80% มักจะขาดทุนหรือศูนย์เงินจากความรู้ไม่เท่าทัน หรือหนักสุดก็เอาเงินไปเล่นพนัน เล่นได้ก็มีบ้าง ดวงตกก็หมดเนื้อหมดตัวไปเลยก็มี
แต่มีชายหนุ่มคนหนึ่งเริ่มคิดต่าง
หลังจากที่เขาได้ทดลองผ่านร้อนผ่านหนาว จากเรื่องราวข้างต้นมาได้ซักระยะ สมาชิกเว็บPantipท่านหนึ่งชื่อ TheGolfMania ผู้ชื่อนชอบและศึกษาการเล่นหุ้น แต่ด้วยโชคชะตาฟ้าลิขิตหรือจะด้วยจังหวะชีวิตถึงความพลิกผันก็ไม่ทราบ ในวันหนึ่งหลังจากไปเดินเที่ยวงานเกษตร พันธ์พืชและสัตว์ ที่เมืองทองธานี เขาหันไปเห็นชุดปลูกผักไฮโดรโปนิกส์(Hydroponics) จากบูธหนึ่งในงานจัดแสดงแล้วชอบมากๆ จึงซื้อติดมือกลับมาชุดหนึ่ง หวังทดลองทำสวนปลูกผักแนวนี้เล่นๆดูซักครั้ง
จากทำเล่นๆ บนดาดฟ้าบ้าน ก่อนกลายเป็นโปรเจ็คใหญ่
ชุดปลูกต้นฉบับ ที่ซื้อมาจากงานแฟร์
หลังจากหาอ่านข้อมูลการเพาะต้นอ่อนจากอินเตอร์เน็ต ซึ่งก็เพาะในถาดแบบนี้
ผ่านไป 3 วันต้นอ่อนก็เริ่มงอก
ในระหว่าง 3 วันก็ลงมือทำชุดปลูกในแบบของตัวเอง หน้าตาแบบนี้
เริ่มย้ายชุดปลูกทั้งหมดไปไว้บนดาดฟ้า
ชุดปลูกต้นฉบับดูเล็ก และเริ่มไม่เพียงพอต่อความสนุกซะแล้ว ^-^
"ที่ต้องมีแปลงปลูกแยกกัน เพราะว่าค่า EC ของผักไทยกับผักสลัดไม่เท่ากัน ซึ่งหลังจากที่เวลาผ่านไป 2 สัปดาห์ ผมเริ่มสนุกกับทุกๆวันที่ผ่านไป ในทุกๆเช้าจะต้องรีบขึ้นไปที่ดาดฟ้าเพื่อวัดค่าปุ๋ย วัดค่าน้ำ เติมน้ำ และที่สำคัญคือดูว่ามันโตไปแค่ไหนแล้ว เวลาที่เห็นมันโตขึ้นในทุกๆวันผมว่ามันสดชื่นดี แล้วยิ่งเราได้ทำการถ่ายภาพเพื่อเปรียบเทียบการเจริญเติบโตของมันยิ่งรู้สึกดีมากๆ"
การทำชุดปลูกผักไฮโดรไม่ได้ยุ่งยากอะไร
ปัจจัยที่จะทำรางในระบบน้ำไหลมันน่าจะอยู่ตรงที่...
- ระยะห่างระหว่างหลุม เพื่อเปิดช่องไม่ใหัผักเบียดกันมากเกินไป
- ความกว้างของท่อที่ใช้ เพื่อรากจะได้ไม่พันกันแน่นจนน้ำไหลผ่านยากเพราะจส่งผลกับต้นท้ายๆ
- ระบบการจ่ายน้ำเข้าท่อ แรกๆอาจจะมีปัญหาเรื่องการตันของชุดส่งน้ำต้องคอยทำความสะอาดหลังเก็บเกี่ยว
- ขนาดของหลุมที่เจาะ ซึ่งถ้าเราใช้ถ้วยสำเร็จ เราก็สามารถใช้สว่านแบบที่เป็นหัวเจาะโฮซอล์มาเจาะเองได้เลย ใช้ขนาด 38"
- ระบบน้ำไหลออกชุดแปลงปลูกนี้ ที่ยังไม่ได้ทำตัวควบคุมน้ำ ส่วนใหญ่จะไหลกลับออกมาหมด
- อุณหภูมิของระบบน้ำ สีของท่อที่ใช้ การพักน้ำและการตรวจสอบสารอาหาร ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง
ซึ่งทั้งหมดนี้คือปัจจัยที่สำคัญในการออกแบบโครงสร้างของชุดปลูก ที่สำคัญมากๆ
เวลาที่เห็นมันโตขึ้นในทุกๆวัน มันยิ่งสดชื่นหัวใจดี
ยิ่งนานวัน ก็ยิ่งทำชุดปลูกเพิ่มขึ้น เพื่อลองผิดลองถูกและเล่นกับพื้นที่บนดาดฟ้า
"และหลังจากเริ่มลงมือไปสักพักสวนผักHydroponicของผมก็ค่อยๆโตแบบนี้ครับ"
ใบคะน้าใบใหญ่เกือบครึ่งฝามือแล้ว
ขนาดและสีผักสลัดช่างน่าหม่ำ
จากนั้นก็เริ่มปลูกต้นอ่อนพริก กะเพรา และแฟงเพิ่มอีก
ถัดไปอีกไม่ถึงสัปดาห์ คะน้าชุดแรกใบจะใหญ่กว่าฝ่ามือแล้ว
ทางด้านแปลงผักสลัดก็ไม่ยอมน้อยหน้า โตเต็มแปลงกันยกใหญ่
อดใจไม่ไหวแล้ว ขอเก็บไปกินก่อนเลยแล้วกัน ง่ำๆๆ
"ซึ่งหลังจากเก็บเกี่ยวทั้งหมด (ทั้งแจกและกินเอง) ก็เริ่มเห็นวัฏจักรในการปลูกที่เข้าใจง่าย วางแผนได้ชัดเจนก็เลยไล่ปลูกผักต่างๆโดยคุณแม่จะบอกว่าช่วงนี้จะเป็นเทศกาลนะ ช่วยปลูกอันนี้ให้หน่อย 555 กลายเป็นเรื่องสนุกของแม่ผมไปเลยแต่ก็นะลองดูก็ไม่เสียหายแม่อยากให้ปลูก ตั่วไฉ่ คะน้า เพื่อจะใช้ผัดในเทศกาล ผมดูช่วงเวลาแล้วมันน่าจะเป็นไปได้ที่จะทำให้ทันก็เลยลองปลูกดู โดยเพาะในถาดพลาสติกแบบนี้ครับ"
เมล็ดตัวไฉ่ ที่เพาะในถาดพลาสติก รอโตเป็นต้นอ่อนแล้วค่อยย้ายลงแปลงปลูก
"ในช่วงนี้ก็มีผัก และต้นอื่นๆที่ออกมาให้ดูทุกๆวันกิจกรรมก็เหมือนเดิมครับแต่ที่หนักคือ ตอนนี้ต้องเติมน้ำเยอะมากๆเพราะพอผักเริ่มโตขึ้นและมีชุดปลูกหลายชุด ค่า EC ก็ไม่เท่ากันเริ่มวุ่นๆเล็กน้อย"
เจ้านี่อาจจะเป็นสปายมาแอบสืบแผนลับบนดาดฟ้า อิอิ
และนี่คือผักชุดที่ 2 แล้วครับ
ใบแฟงถึงจะยังไม่ได้ลูก แต่แค่ดูใบมันโตก็สดชื่นสุดๆ
ทำระแนงให้แฟงเลื้อย
ด้านซ้ายคือแปลงพริกและกระเพราจร้า
ใบเขียวสด และเจ้าเม็ดพริกตัวน้อยกำลังออกผล
ตั่วไฉ่ที่ปลูกตามออร์เดอร์คุณแม่ ต้นและใบจะใหญ่เท่ากระทะ
ปลูกแบบพอเพียงตามออร์เดอร์ที่ต้องการ ไม่ได้เก็บไปขาย ไม่งั้นเหลือทิ้งเสียดายแย่
และทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กบนดาดฟ้าบ้าน ของหนุ่มสังคมเมืองคนหนึ่ง ที่กำลังจะผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรชาวสวน ปลูกพืชผักในแบบ ไฮโดรโปนิกส์(Hydroponics) และได้เริ่มสานความฝันใหม่นี้แล้วบนที่ดินแปลงใหม่(กว้างกว่าดาดฟ้าบ้านหลายเท่าตัว ^0^)ย่านชานเมืองในจังหวัดนครปฐม ที่หนีห่างจากความวุ่นวายในสังคมเมืองหลวงของ กทม. ออกไปราวๆ 72 กิโลเมตร
ด้วยประสบการณ์ความรู้ที่เกิดจากการลองผิดลองถูก บนสวนผักดาดฟ้าบ้านของเขา จะเป็นพื้นฐานเพียงพอ ต่อยอดสู่การลงทุนทำโปรเจ็คที่ใหญ่ขึ้นของเขาได้หรือไม่ เราจะนำข้อมูลมาเรียบเรียงให้คุณได้ติดตามเชียร์กันต่อที่นี่แน่นอน
เรียบเรียงข้อมูลโดย : เรื่องเด็ดเจ็ดย่านน้ำ
ขอบคุณที่มา :
- สมาชิกเว็บPantip TheGolfMania
- th.wikipedia.org
- hydro-farm.blogspot.com
ถูกใจอัพเดททุกเรื่องเด็ด
บอกต่อเรื่องนี้ให้เพื่อนคุณ