พระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2514





พระราชดํารัส

พระราชทานแก่ผู้แทนองค์การและสมาคมต่าง ๆ ทางศาสนา

ณ ศาลาดุสิดาลัย

วันเสาร์ที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๔


          ขอขอบใจท่านทั้งหลายซึ่งชุมนุมกันมาให้พรในวันนี้ ท่านทุกคนต่างก็เป็นผู้แทนขององค์การและสมาคมทางศาสนาต่าง ๆ และเป็นผู้แทนของสมาคมและโรงเรียนในขั้นต่าง ๆ แขนงต่าง ๆ ของการศึกษา เมื่อมาประชุมกันพร้อมเพรียงกันเช่นนี้ ก็ขอถือโอกาสกล่าวว่า กิจทางศาสนาและทางการศึกษานี้มีความสําคัญสําหรับบ้านเมือง สําหรับความเป็นปึกแผ่นของสังคมในประเทศอย่างมาก

          และที่แต่ละคณะแต่ละคนได้มาให้พร ก็สรุปได้ว่ามาให้พรให้มีความแข็งแรงไม่ให้มีโรคภัยไข้เจ็บใด ๆ มาเบียดเบียน ให้มีจิตใจและร่างกายเข้มแข็ง ก็ขอสนองพรที่ได้มาให้นี้ ให้ทุกคนได้รับพรที่ได้กล่าวด้วยตนเองกลับไปสู่ตนเอง เพราะว่าแต่ละคนย่อมต้องการความแข็งแรง ความมีสุข ความมีความมั่นคงก้าวหน้าทุกคน วิธีที่จะทําให้ทุกคนมีความแข็งแรง ก้าวหน้า ถ้าเป็นบุคคลก็จะต้องช่วยให้ส่วนความมีความแข็งแรงมั่นคงเหมือนกันด้วย ทั้งในด้านจิตใจและในด้านสมอง เพราะศาสนาและการศึกษาเป็นปัจจัยที่สําคัญที่สุดสําหรับให้บ้านเมืองมีความผาสุก ฉะนั้นที่ได้มาอยู่ที่นี้พร้อมกันจึงเป็นมิ่งมงคลอย่างยิ่งสําหรับผู้ที่ได้รับพรและผู้ที่มาให้พร

          และก็ขอให้ระลึกถึงว่า ฝ่ายการศึกษาที่มาวันนี้ก็เป็นทุกขั้น ตั้งแต่ขั้นที่เรียกว่าขั้นอนุบาลขั้นเยาว์วัย จนกระทั่งถึงขั้นประถมศึกษา ขั้นมัธยมศึกษา ขั้นอุดมศึกษา และขั้นสูงกว่าอุดมศึกษาด้วยซ้ํา ทุกขั้นนี้จะต้องพยายามปฏิบัติให้ดีเพื่อให้ตนเอง และส่วนรวมได้รับประโยชน์ ทุกวันนี้ ในปัจจุบันนี้..... ที่จริงก็ไม่สมควรที่จะพูด เพราะว่าจะเป็นการกระทบกระเทือน แต่ก็ขอพูดสักเล็กน้อยเพราะว่าถือเป็นกันเอง.....ที่มีวิกฤติการณ์ในทางการเมืองในปัจจุบันนี้ ส่วนหนึ่งที่ได้อ้างว่าเป็นเหตุผลที่จะต้องมีวิกฤติการณ์ทางการเมืองก็คือนักศึกษา นักศึกษาถูกอ้างว่าจะก่อความไม่เรียบร้อย จะก่อความวุ่นวายต่อบ้านเมือง จึงทําให้มีความจําเป็นที่จะจัดการอย่างเข้มงวด ซึ่งแต่ละคน ในดวงจิตของตัวเอง ก็คงทราบดีว่า ความจริงนักศึกษาทั้งหลาย ซึ่งตีความตั้งแต่ขั้นสูงลงมาจนถึงขั้นต่ํา ขั้นอนุบาลมีความตั้งใจอย่างไร ก็ทราบดีว่าแต่ละคนไม่ต้องการที่จะก่อจลาจลก่อความวุ่นวายใด ๆ เลยแต่ละคนต้องการแต่ความก้าวหน้า ความเจริญ ความสงบสุข แต่ว่าก็ขอให้แต่ละคนพิจารณาด้วยตนเองว่าความสงบสุขนี้จะได้มาอย่างไร และอย่าไปเชื่อฟังใครที่บอกว่าวิธีที่จะหาความสงบสุขก็ต้องก่อความวุ่นวายเสียก่อน และอย่าไปเชื่อฟังและตามจิตใจของตนเองที่ชอบไปใช้อํานาจฝ่ายต่ําครอบงําตัว

          สําหรับอธิบายในข้อนี้ บางทีบางคนอยากที่จะมีความสุขความสําราญความสนุกสนาน ก็ปฏิบัติในสิ่งที่จะนําความสุขสําราญสนุกสนานแก่ตัวเองแล้วก็ไม่คิดถึงผู้อื่นคือไปก้าวก่ายเสรีภาพของผู้อื่น ไปเบียดเบียนคนอื่นซึ่งเป็นการเบียดเบียนส่วนรวม ความสุขสําราญนั้นก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างถาวร ข้อนี้ถ้าทุกคนนึกถึง คิดพิจารณาอย่างดีจะเป็นนักเรียน นักศึกษา จะเป็นนักศึกษาในทางศาสนาและศาสนาใดก็ตาม ถ้าใช้ความพิจารณาที่รอบคอบในข้อนี้ข้อเดียว ก็จะทําให้กิจการกิจกรรมและสิ่งที่ปรารถนามีความเจริญงอกงาม ดีมีความสุข มีความเจริญโดยแท้จะไม่มีความวุ่นวายใด ๆ เข้าใจว่าถ้าทุกคนนึกถึงว่าพลีงที่สําคัญที่สุดคือการพิจารณาที่รอบคอบด้วยความฉลาด ด้วยปัญญาของตนและด้วยการพินิจพิเคราะห์ที่รอบคอบแล้ว ก็ไม่เกิดเรื่องอะไรเลย ไม่เกิดเรื่องวุ่นวายแก่ตัวและแก่ส่วนรวมอย่างแน่นอน ฉะนั้นในโอกาสที่ท่านทั้งหลายซึ่งเป็นผู้ที่สนใจและผู้ปฏิบัติในทางศาสนกิจต่าง ๆ และในทางการศึกษามาอยู่ด้วยกัน ก็ขอให้ร่วมกันคิดในทางที่เหมาะสมคิดในทางที่รอบคอบ แล้วก็จะได้ชื่อว่าได้สร้างตนเองได้สร้างบ้านเมืองและสังคมของเราให้มั่นคง ไม่ต้องปฏิวัติกัน แม้จะปฏิวัติมาแล้ว ก็สามารถที่จะช่วยให้บ้านเมืองเป็นส่วนรวมคงอยู่ ไม่ต้องอาศัยการปฏิวัติต่อไป คือทุกคนจะเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ของร่างกายจิตใจของตัว และในเวลาเดียวกันก็เท่ากับควบคุมสถานการณ์ของส่วนรวมของชาติบ้านเมืองให้อยู่เรียบร้อย ถ้าทุกคนทําหน้าที่ของตนก็ไม่มีความวุ่นวายใด ๆ มีแต่ความมั่นคงความปลอดภัย การปกครองบ้านเมืองจะไม่ต้องมาทํารุนแรง แล้วก็ไม่ต้องมาทําให้เกิดความไม่พอใจในตัวเองและไม่พอใจในผู้อื่น คือถ้าทุกคนตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่พิจารณาหน้าที่ของตนอย่างหนักแน่น ปฏิบัติอย่างหนักแน่นอย่างตรงไปตรงมาอย่างกล้าหาญ คือยอมที่จะแสดงความจริงใจ ยอมที่จะคิดนทางที่ตรง แม้บางที่ตัวเองอาจต้องเหน็ดเหนื่อยหรือต้องต่อสู้ในตัวเอง ก็พยายามให้อํานาจฝ่ายดีของตัวและอํานาจฝ่ายดีของส่วนรวมขึ้นหน้าอํานาจฝ่ายเลว อย่างนั้นน่ะจะทําให้บ้านเมืองไปรอด และก็ทําให้ทุกคนมีความผาสุกได้พรทั้งหลายที่ได้ให้มาในวันนี้จะสัมฤทธิ์ผล และจะสะท้อนกลับไปสู่ท่านทั้งหลายทุกคนรวมทั้งคนที่ไม่ได้มาในวันนี้ หมายความว่าจะเป็นมหากุศลอย่างยิ่ง จะเป็นการช่วยกันสร้างให้สังคมของประเทศไทยให้บ้านเมืองเจริญและก้าวหน้า

          พูดเท่านี้ก็คงเข้าใจได้ว่า วันนี้ปลาบปลื้มมากที่ทุกคนได้มาให้พรและแสดงความสามัคคีและแสดงน้ําใจที่ดีที่งาม และมาด้วยความตั้งใจด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อที่จะมาพบกันอย่างกันเอง ก็ปลาบปลื้มมาก และขอขอบใจทุกคน ขอให้ทุกคนสามารถที่จะปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์แก่ตนเองและต่อหมู่คณะตามหน้าที่ของแต่ละคน การปฏิบัติเช่นนี้ก็จะเป็นพรและเป็นของขวัญ เป็นการทําให้มีความเจริญรุ่งเรืองจริง ๆ ก็ขอขอบใจทุกคน ขอจงให้ประสบแต่ความเจริญรุ่งเรืองทุกประการ

**ไฟล์ PDF ที่แจกถูกพิมพ์คัดลอกมาจากเอกสารจริงโดยอาสาสมัคร หากผิดพลาดประการใดเพจ "สานต่อที่พ่อทำ" ขออภัยมา ณ ที่นี้

เรียบเรียงโดย : เรื่องเด็ดเจ็ดย่านน้ำ
ที่มา : FB @สานต่อที่พ่อทำ
อ้างอิง : ลิ๊งค์ไฟล์ PDF

กดถูกใจเพจเพื่อติดตามอัพเดททุกเรื่องเด็ด
บอกต่อเรื่องนี้ให้เพื่อนคุณ


About เรื่องเด็ดเจ็ดย่านน้ำ

ขอบคุณทุกเรื่องเด็ด และเรื่องราวดีๆ จากทุกแง่มุมในสังคม เราจะหามาแชร์และส่งต่อให้เพื่อนบนโลกโซเชียลได้รับรู้ รับทราบกันอย่างทั่วถึง คุณเองก็สามารถทำได้ "กดแชร์" เรื่องเด็ดที่คุณชอบเลยสิ!