"โอ๋ ธรรมศักดิ์" อดีตนักร้องวง P2Warship ในลุคหนุ่มกรุงเทพฯสุดฮิป ปลูกข้าวทำนาฟาร์มเกษตรกลางลาดพร้าว มีกินมีขาย




"พบวิกฤต แนวคิดจึงเปลี่ยน" เปลี่ยนทั้งชีวิตตนเอง ทั้งอาชีพ และที่ดินกลางเมือง กลายเป็นฟาร์มทำกินอยู่แบบพอเพียงโดย คุณโอ๋ ธรรมศักดิ์ ลือภูวพิทักษ์กุล อดีตนักร้องประจำวง P2WARSHIP  ย้อนเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้าจะมาปลูกต้นไม้ ปลูกผัก เปลี่ยนพื้นที่ที่มี มาทำการเกษตรอย่างทุกวันนี้นั้น จริงๆแล้วตนเป็นคนกรุงเทพฯเต็มตัว อาศัยอยู่ที่ย่านเขตลาดพร้าว บนพื้นที่เพียง 1 ไร่ตรงนี้ เมื่อก่อนเคยเปิดเป็นสนามฟุตบอลให้เช่ามา แต่พอช่วงปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมทั่วกรุงเทพฯ ช่วงนั้นทำให้คุณพ่อ คุณแม่และญาติๆ ต้องย้ายจากมีนบุรีมาอาศัยอยู่ด้วยกันที่นี่

"จากสนามบอลเก่า" ที่วัยรุ่นและคนในซอยลาดพร้าว 71 เคยรู้จักและเคยเช่าเล่น ถูกดัดแปลงเปลี่ยนพื้นที่มาทำการเกษตรอยู่กลางกรุง เปลี่ยนเส้นทางชีวิตนักดนตรีและสนามฟุตบอลเป็นเกษตรกรรม ตามรอยเท้าในหลวง รัชกาลที่ ๙ โดยใช้ชื่อว่า “ฮิพอินทรีย์ ฟาร์มวิลล์พอเพียง” บนเนื้อที่ 1 ไร่ ในซอยลาดพร้าว 71 นาคนิวาส 30 กลายเป็นพื้นที่เกษตรกรรมสีเขียวหนึ่งเดียวที่ล้อมไปด้วยพื้นปูนและตึกคอนกรีต


"ปัญหากลับพาความสุขมาให้" ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ชีวิตมีความสุขมาก เพราะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาครบครอบครัว คุณแม่ตื่นเช้าเก็บผักริมรั้วที่ปลูกไว้มาทำกับข้าว ทำอาหารทานกันเองซึ่งมันอร่อยและรู้ว่าสุขภาพดีมาก ตอนนั้นมีเงินก็ไม่สามารถซื้อได้

"จุดเริ่มต้นที่หันมาทำเกษตร" พอหลังจากช่วงน้ำท่วมผ่านไป ก็คิดเริ่มที่จะลงมือทำเลย เพราะตอนน้ำท่วม เรามีผักที่ดีทาน สุขภาพดี ชีวิตก็มีความสุขไปด้วย จึงกลับมานั่งทบทวนว่า การทำเกษตรอาจเป็นสิ่งที่ชีวิตกำลังตามหาความสุขแบบนี้อยู่ก็เป็นได้


เพื่อนๆถึงกับทึ่งในความเป็นฮิปสเตอร์

"เริ่มทุกอย่างจากศูนย์" เนื่องด้วยไม่มีความรู้เกี่ยวกับการเกษตร จึงต้องเริ่มหาความรู้ เริ่มค้นคว้าและทดลองทำ จากการไปเรียนปลูกผักกับเจ้าชายผัก จนพอเข้าใจ ระหว่างนั้นมีการศึกษาแนวคิดของ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ประกอบกับความตั้งใจ และเริ่มต้นพัฒนาที่ดินไปด้วย ซึ่งมีการถมทั้งดินและทรายทับหน้าดินสนามฟุตบอลเดิม เพื่อปรับสภาพดินต่างๆ


"พอมีความรู้และเข้าใจ" จึงลงมือ ทำทีละนิด ปลูกทีละอย่าง โดยอาศัยแปลนที่เราเป็นคนร่างขึ้นมาเอง  ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบธุรกิจค้าปลีกและบริหารธุรกิจค้าปลีก จาก University The Arts of London  ผสมรวมกับประสบการณ์ที่อดีตเคยเป็นนักออกแบบตกแต่งภายในอาชีพ จึงได้แปลนจัดสรรที่ดินเป็นสัดส่วน โดยเริ่มลงไม้ยืนต้นก่อน เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาเติบโตนานหลายปี

"เริ่มจัดสรรที่ดินแบบพอเพียง" บนเนื้อที่ 1 ไร่ของฟาร์ม ฮิพอินทรีย์ แบ่งเป็น 2 โซนใหญ่คือ

โซนที่ 1 เป็นโซนต้นไม้ ไม่ว่าจะเป็นไม้ยืนต้น อย่างขนุน ไผ่ ชะอมและกล้วย ผสมกับการปลูกพืชหมุนเวียน อย่างคะน้า ผักบุ้ง ผักชี หรือพืชผักสวนครัวชนิดต่างๆ นำมาหมุนเวียนปลูกสลับกันไปในพื้นที่ว่าง

โซนที่ 2 เป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ โดยกั้นพื้นที่วางล้อมตาข่าย สร้างที่อยู่อาศัยเป็นบ้านหลังเล็กๆ ให้มันอยู่แล้วเลี้ยงไก่อย่างอิสระ สามารถเดินได้ทั่วในบริเวณที่กั้นไว้ให้

ภาพแปลกตากลางกรุงเทพมหานคร 
ที่มีทั้งนา มีทั้งสวนผักและฟาร์ม

ปลูกทุกอย่างที่กินได้ 


น้องๆโร๊ด ไก่พันธุ์ Rhode Island Red 

เจ้าพวกนี้จะโตขึ้นมาผลิตไข่ไก่ให้

ขอต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าเล้า 37 ชีวิต

"กลายเป็นเกษตรกรในเมือง" ปลูกพืชเก็บกินเอง เหลือเก็บขายโดยอาศัยความรู้และความตั้งใจในการขายปลีกให้เกิดการขายได้จริง

“ผมเคยคิดว่าตัวเองมือร้อน ปลูกพืชผัก ต้นไม้ไม่ขึ้น พอได้เรียนรู้ ทำความเข้าใจ จึงรู้ว่ามันเป็นความคิดที่ผิด แท้จริงคือ เราขาดความใส่ใจในสิ่งที่เราปลูก สิ่งที่เราทำ ทุกวันนี้ผมก็ปลูกได้นะ มือที่ว่าร้อนปลูกไม่เคยขึ้น ก็ปลูกขึ้นแล้ว ขนาดสภาพดินสนามฟุตบอลเดิม ยังปลูกต้นไม้ได้เลย ดินที่อื่นก็น่าจะปลูกขึ้น"

คุณโอ๋ - คุณธรรมศักดิ์ ลือภูวพิทักษ์กุล

"หลายคนที่อาศัยอยู่ในเมือง" หรือมีพื้นที่บ้านกลางกรุง อาจมองไม่ออกว่าจะปลูกพืชผักอย่างไร ใช้พื้นที่เท่าไหร่ ปลูกอะไรให้ขึ้น สุดท้ายควรต้องเริ่มจากให้ลองถามตัวเราก่อนว่า ชอบทานอะไร หรือเมนูไหนที่ไปสั่งตามร้านอาหารให้พ่อครัวแม่ครัวทำให้ พูดง่ายๆคือกินที่ปลูก ปลูกแล้วกินเองได้

ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น กินผัดกะเพราหมู ลองหาต้นกะเพราต้นเล็กๆ มาปลูกสักต้น แล้วคุณจะได้กินผัดกะเพราหมู ที่ทั้งอร่อย ใบกะเพราที่สดจากต้นในบ้านคุณและไม่มียาฆ่าแมลง

กินทุกอย่างที่ปลูก

"ต้องเริ่มทำ" คือเคล็ดลับที่เจ้าของ ฟาร์มฮิพอินทรีย์ แนะนำและให้เหตุผลว่า ไม่มีใครรู้ว่าที่ทำจะดีหรือไม่ดีอย่างไร นอกจากการได้เริ่มลงมือทำ และเน้นการพึ่งพาตัวเอง ไม่ทำเกินกำลัง ทำเพื่อให้พออยู่ได้ก่อน และไม่หยุดนิ่งที่จะทำต่อ

"ต่อยอดสินค้าอินทรีย์" ปัจจุบัน คุณโอ๋ เรียกตัวเองว่า เกษตรกรในเมือง เพราะในความหมายของเขาคือ ทำการเกษตรแล้วขายได้ พออยู่ได้ ไม่เดือดร้อนและได้อยู่อาศัย ได้ทำกินบนพื้นที่ของตนเองในเมือง

เกษตรกรในเมือง เต็มไปด้วยความสุข

"คำสอนเปรียบค่าดั่งทองคำ" คุณโอ๋ กล่าวว่าผลิตภัณฑ์ของฟาร์ม ฮิพอินทรีย์ ได้แนวคิดมาจากพระราชดำริของ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่ว่า "ผลิตแบบพออยู่ พอกิน พอใช้และแบ่งปัน เหลือนำไปแปรรูป เพิ่มมูลค่าและขาย" ซึ่งเดี๋ยวนี้สินค้าอินทรีย์ก็ขายง่ายขึ้น เพราะมีช่องทางออนไลน์เข้ามาช่วย ใช้เฟซบุ๊กเป็นที่จำหน่ายสินค้าปลีก

"ผลผลิตเหลือก็แปรรูปขาย" ผลิตภัณฑ์ที่ขายดีคือ เนยถั่ว เพสโต้โหระพาสไตล์อิตาลี นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีการดำนาปลูกข้าวด้วย การปลูกข้าวในแปลงเกษตรนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะอยากอนุรักษ์พิธีแรกขวัญนาข้าวและการลงแขกเกี่ยวข้าว ผลผลิตที่ได้ถือว่าน่าพึงพอใจ

เนยถั่ว สินค้าขายดีประจำฟาร์ม 

เพสโต้โหระพาอิตาลี

"การทำเกษตรในเมือง" บนพื้นที่ที่จำกัดนั้นทำได้จริง ต้องทำน้อยให้ได้มาก นั่นคือ การเพาะปลูกทุกต้นต้องได้ผลผลิตที่ดี ใส่ใจในการปลูกพืชผัก ทำความเข้าใจถึงนิสัยความชอบของสิ่งที่ต้องการจะปลูก และคิดต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์แปรรูปให้เกิดเป็นรายได้ ที่สำคัญคือต้องเริ่มลองทำ แล้วคุณจะรู้ว่าความถูกผิดที่เกิดจากการทดลองทำ ให้ประสบการณ์ที่ดีเป็นพื้นฐานสู่ความสำเร็จที่แท้จริง

ใครสนใจอยากสั่งซื้อ อยากลองอุดหนุนผลิตภัณฑ์ผักสดและสินค้าแปรรูป สามารถตามไปออร์เดอร์ได้เลยที่ลิ๊งค์แฟนเพจด้านล่างเลยครับ

เรียบเรียงข้อมูลใหม่โดย : เรื่องเด็ดเจ็ดย่านน้ำ
ที่มาภาพและข้อมูล :
FB - Hip Incy Farm, P2WARSHIP Self-Sufficiency Farming
FB - Thamasak Oh Luepuwapitakkul
sentangsedtee.com

ถูกใจอัพเดททุกเรื่องเด็ด
บอกต่อเรื่องนี้ให้เพื่อนคุณ


About เรื่องเด็ดเจ็ดย่านน้ำ

ขอบคุณทุกเรื่องเด็ด และเรื่องราวดีๆ จากทุกแง่มุมในสังคม เราจะหามาแชร์และส่งต่อให้เพื่อนบนโลกโซเชียลได้รับรู้ รับทราบกันอย่างทั่วถึง คุณเองก็สามารถทำได้ "กดแชร์" เรื่องเด็ดที่คุณชอบเลยสิ!