28 ธันวาคม “วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” กษัตริย์นักรบผู้กอบกู้เอกราชแห่งชาติสยาม



"กษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราช" ตามพระราชประวัติของ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พระมหากษัตริย์ผู้ทรงกอบกู้เอกราชจากพม่าเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 พระองค์ทรงเป็นทั้งกษัตริย์นักรบและยังเป็นที่พึ่งทางใจของประชาราษฎร์ตลอดมา ด้วยความเชื่อว่าบารมีแห่งพระองค์ท่านจะช่วยให้ประสบความสำเร็จในทุกๆเรื่อง ทั้งการค้าขาย การเรียน การงาน หรือแม้แต่หนี้สินจากการค้าขาย


สำหรับการ "บน" หรือ "ขอ" เพื่อให้หลุดจากภาระหนี้สินนั้น ดูเหมือนเพิ่งจะได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงฟองสบู่แตกเมื่อปี 2540 เพราะในช่วงนั้นคนในประเทศส่วนใหญ่เกิดภาวะการเป็นหนี้เป็นสินมากที่สุด ซึ่งสิ่งที่พวกเขาหันไปพึ่งพาเพื่อให้พาชีวิตครอบครัวอยู่รอดคือการพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะที่พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ ซึ่งคนที่ไปบนบานที่นั่นเชื่อว่าท่านจะสามารถช่วยเหลือในเรื่องของหนี้สินได้

เพราะมีความเชื่อกันว่า ท่านทรงเห็นใจและเข้าใจหัวอกของคนเป็นหนี้ เหมือนดั่งชาวไทยเมื่อครั้งเสียเอกราช โดยเฉพาะเหล่าพ่อค้าแม่ค้าเขตฝั่งธนบุรีและย่านเยาวราช ที่หวังมีที่พึ่งทางใจให้ท่านดลบันดาลช่วย เปิดโอกาสได้ผ่านพ้นจากวิกฤตภาระหนี้สิน ได้ทำมาค้าขายเลี้ยงชีพมีธุรกิจเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น


นอกจากนี้ ผู้ไปบนบานยังสามารถขอให้ท่านช่วยเรื่อง ค้าขาย การเรียน การงาน อีกด้วย สำหรับวิธีบนนั้นจะต้องใช้ธูป 16 ดอก มาลัยดาวเรือง มาลัยมะลิ และหลังจากสำเร็จแล้วต้องการจะแก้บนจะต้องแก้บนตามคำกล่าวที่เคยขอท่านไว้หรือโดยการนำอาหารคาว หวาน มาถวายท่าน

เหล่าประชาราษฏร์ และข้าราชบริพารผู้รู้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงเทิดทูนยกย่องถวายพระเกียรติของพระองค์ท่านว่า “มหาราช" พระผู้ทรงเป็นมหาวีรบุรุษของชาติไทย ตราบจนเท่าทุกวันนี้ ต่อมาในปี พ.ศ. 2497 คณะรัฐบาลไทยในสมัย ฯพณฯ จอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนทุกหมู่เหล่าได้พร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประดิษฐานอยู่ ณ วงเวียนใหญ่ กรุงธนบุรี เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๔๙


กล่าวถึงตัวอนุสาวรีย์ จะมีความสูง 8.59 เมตร กว้าง 1.8 เมตร ยาว 3.50 น. ด้วยรูปหล่อทองสัมฤทธ์บรมรูปทรงม้า ทรงพระมาลา ยกกรข้างขวาชูดาบ พร้อมที่จะเผชิญกับข้าศึกอย่างฉับพลัน เพื่อน้อมรำลึกถึงในพระเกียรติประวัติ เกียรติยศ เกียรติคุณ ให้ทรงปรากฏกับอนุชนรุ่นหลังสืบต่อมา โดยถือกำหนดเอาทุกวันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันถวายบังคมราชสักการะคล้าย “วันปราบดาภิเษก” เสด็จขึ้นเสวยราชย์ฯ

การถวายเครื่องสักการะบูชา

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงเป็นดวงพระวิญญาณที่สถิตย์เป็นหนึ่งในสมเด็จพระสยามเทวาธิราชเจ้า คอยปกป้องรักษาแผ่นดินไทยให้มีความเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์และมีชัยชนะเหนืออริราชศัตรู ทรงโปรดสิ่งเหล่านี้

1.ผู้มีความซื่อสัตย์ ต่อทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และราชบัลลังก์ ตลอดจนผู้ที่เป็นนักรบรั้วของชาติ
2.พระกระยาหาร ที่ทรงโปรดเสวยนั้น ส่วนใหญ่เป็นอาหารสำหรับใช้เดินทัพทั้งหลายเช่น ข้าวผัดห่อใบจาก(หรือข้าวต้มมัด) ไข่ต้ม และเครื่องของแห้งต่างๆ
3.ผลไม้ที่ควรถวาย ได้ทั้งจากไทยและจีน เครื่องเซ่นไหว้แบบจีนเต็มชุด เช่น เป็ด ไก่ หัวหมูบายศรี และซาแซ
4.น้ำที่ควรถวาย ควรเป็นน้ำเปล่า น้ำผลไม้ และน้ำหวานอื่นๆ ไม่ควรถวายน้ำจัณฑ์หรือสุรา
5.ดอกไม้ที่ใช้บูชา โปรดสีแดง อันเป็นสีแห่งวันพระราชสมภพของพระองค์
6.เครื่องถวายแก้บน โปรดดาบไทย ครั้งละ 2 เล่ม และปืนใหญ่จำลอง
7.โปรดเสียงประทัด และเสียงปืน


การจะขอพระบารมี ต้องจุดธูป 16 ดอก กลางแจ้งหน้าพระบรมรูปทรงม้า แล้วกราบขอพระราชทานพระบารมี ตามที่ต้องการ

คำบูชาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

(ตั้งนะโม 3 จบ)
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ (กราบ)

ตั้งสวดอาราธนาดวงพระวิญญาณ
โอม สิโน ราชาเทวะ ชะยะตุภะวัง สัพพะศัตรู วินาสสันติ (กราบ)

เสร็จแล้วนำถวายเครื่องสักการะพร้อมสวด
โอม สิโน ราชาเทวะ นะมามิหัง (กราบ)

สำหรับพระคาถาให้โชคลาภ ท่านสามารถสวดหน้าพระบรมรูปฯ หรือหน้าภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่บ้าน

(ตั้งนะโม 3 จบ)
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ (กราบ)

บทสวดพระคาถาให้โชคลาภ
นะชาลิติ มะหาลาโภ ลาโภ มหาโชค มหาลาภ (กราบ)



พระราชวังเก่า ในสมัยราชวงศ์ของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ปัจจุบันถูกปรับเปลี่ยนและดูแลโดย กองทัพเรือ สามารถหาอ่านได้จากบทความของคุณ มนตรี แดงโกเมน ได้อีกทางหนึ่ง

เรียบเรียงข้อมูลใหม่โดย : เรื่องเด็ดเจ็ดย่านน้ำ

กดถูกใจเพจติดตามอัพเดททุกเรื่องเด็ด
บอกต่อเรื่องนี้ให้เพื่อนคุณ


About เรื่องเด็ดเจ็ดย่านน้ำ

ขอบคุณทุกเรื่องเด็ด และเรื่องราวดีๆ จากทุกแง่มุมในสังคม เราจะหามาแชร์และส่งต่อให้เพื่อนบนโลกโซเชียลได้รับรู้ รับทราบกันอย่างทั่วถึง คุณเองก็สามารถทำได้ "กดแชร์" เรื่องเด็ดที่คุณชอบเลยสิ!