ต่อยอดเรื่องราวดีๆ ของอดีตสถาปนิกหนุ่มไฟแรง ทำชีวิตหักมุมคิดหาทางดำเนินชีวิตต่างจากคนรุ่นใหม่ ที่อยู่ในสังคมวัตถุนิยมจากเมืองหลวง ก้าวเข้ามาสู่วิถีชีวิตที่พออยู่พอกิน ตามแนวคิดของในหลวง ว่าที่ท่านได้คิดและตรัสไว้เป็นแนวทางสำหรับประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ของประเทศนั้น สามารถทำได้และอยู่ได้จริง
ซึ่งก่อนหน้าหลังจากเขาได้เริ่มทำการปรับปรุง "ที่นอน" และบริเวณห้องนอนให้พ่อกับแม่ด้วยงบประมาณเพียง 10,000 บาท เสร็จเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ถึงเวลาที่เขาคิดวางแผนปรับปรุง "ที่ค้าขาย" ให้กับแม่ ซึ่งหาเลี้ยงชีวิตด้วยอาชีพเกษตรกรปลูกผักปลอดสารพิษเองแล้วนำผลผลิตที่ได้ไปขายต่อ ยังแผงในตลาดสด-ตลาดนัดอีกที
ร้านใหม่ของแม่ อยู่ที่นี่จร้า ตลาดนัดกะเปอร์ : Kapoe Market
ทีนี้เรามาเข้าเรื่องของการอัพเกรดร้านแผงผักของแม่ให้ดูดีขึ้น ด้วยงบประมาณ 200 บาท ซ้ำไม่พอยังอัพเกรดสินค้าด้วยการออกแบบภาชนะและบรรจุภัณฑ์ให้ใหม่อีกด้วย เขาทำได้อย่างไรบ้างเรามาดูกันเลย
ตามแผนคืออยากจะปรับปรุงเเผงผักในตลาดให้คุณเเม่ ด้วยงบประมาณ 200 บาท เริ่มต้นด้วยการหาวัสดุจากธรรมชาติและจากที่เหลือใช้จากที่ต่างๆ ส่วนขั้นตอนการจัดทำก็ไม่ยุ่งยากเลย
รายการวัสดุก็มีดังนี้
1. ไม้กระดานอัด = ได้จากป้ายหาเสียงเหลือใช้
2. สีดำเเบบเช็ดได้ = เหลือจากทาผนังในบ้าน
3. ชอล์ก = 20 บาท
4. โคมไฟ = ถาดกรองน้ำกะทิในตลาด 20 บาท
5. หลอด+สายไฟ = 40 บาท
6. ตับจากกั้นผนัง ตับละ 4 บาท x25 ชิ้น = 100 บาท
7. เศษไม้เเละอื่นๆ = หาได้จากในสวนครับ
ภาพแผงผักของแม่ในตอนแรกๆ
แพลนร้านที่ออกแบบไว้ใช้เป็นแบบในการปรับปรุง
ที่น่าจะยุ่งยากสุดคือการวาดเขียนและประดิษฐ์ข้อความ
ภาพหลังเสร็จ ใช้เวลาเพียงไม่นานในการนำวัสดุทั้งหมดมาปรับปรุงต่อเติม
คุณแม่เจ้าของตัวจริง ยิ้มสดใสต้อนรับลูกค้า
"ผักที่ปลูกเหลือจากกินเอง ก็เเบ่งปันญาติพี่น้อง แบ่งเพื่อนบ้าน ทุกๆวันเสาร์ / อังคาร ผมกับเเม่ก็จะนำมาขายในตลาดครับ ....เเบ่งปันผักสดที่เรามั่นใจว่าปลอดสารพิษ ให้กับคนในชุมชนได้กิน"
นอกจากราคาที่วางขายในราคาที่ไม่แพงแล้ว ยังมีหน้าตาภาชนะและบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาได้น่าหยิบซื้อ เป็นความสร้างสรรค์และน้ำใจที่น่าเอาเป็นแบบอย่างจริงๆ
"2 ปีที่ได้กลับมาอยู่ที่นี่ ได้กลับมาพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ให้ดีขึ้น บนวีถีเกษตรอินทรีย์ นอกจากมันจะทำให้ผมกับครอบครัวมีความสุขเเละสุขภาพที่ดีเเล้ว มันยังพิสูจน์ให้เราเห็นอีกด้วยว่า สิ่งทึ่พระองค์ทรงคิด คือสิ่งที่ดี เหมาะสมกับเกษตรกร เเละคนต่างจังหวัดอย่างเราครับ"
ขอบคุณที่มาข้อมูลและภาพจาก facebook.com, บ้านไร่ ไออรุณ baan rai i arun
กดถูกใจเพจเพื่อติดตามอัพเดททุกเรื่องเด็ด
บอกต่อเรื่องนี้ให้เพื่อนคุณ