พระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2520




พระราชดํารัส

พระราชทานแก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้า ฯ ถวายพระพรชัยมงคล

ณ ศาลาดุสิดาลัย

วันอาทิตย์ที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๐


          ขอขอบใจท่านทั้งหลาย ที่มาในวันนี้และในคําอํานวยพรซึ่งได้กล่าวในนามของทุกคนที่มา ขอขอบใจและรับความปรารถนาดีที่ได้แสดงมาดังนี้ และถือว่าความปรารถนาดีนี้ดีจริง คือคําว่าปรารถนาดีนี้อาจจะไม่ดีจริงก็ได้แต่ว่าถือว่าดีจริง เพราะเหตุว่าท่านทั้งหลายได้มาด้วยความสมัครใจ และมาอย่างมิได้เชื้อเชิญ พูดอย่างนี้อาจจะไม่ค่อยสุภาพนัก แต่ก็ยินดีต้อนรับ และเมื่อพูดอย่างนี้ก็ต้องขออนุญาตและขออภัยต่อคุณหญิงที่ได้กล่าวคําอํานวยพรอันไพเราะ แต่ว่าก็ขอมีข้อสังเกตหลายข้อ ในงานหรือในการมาพบปะกันในวันนี้ตามที่คิดออกในฉับพลัน คือต้องขออนุญาตเพราะว่าบางทีอาจจะพาดพิงถึงคําอํานวยพรเมื่อตะกี้ด้วย

          อันแรกที่มาในวันนี้ก็มีข้อสังเกตได้ว่า มีจํานวนมาก และแต่ละคณะต่างก็มีความแตกต่างกันบ้างคล้ายคลึงกันบ้าง ถ้าดูแล้วมีจํานวนคณะเป็นร้อย จํานวนบุคคลเป็นพัน แต่ละคณะก็ถือว่ามาอํานวยพรแก่ผู้ที่มีอายุยังไม่ถึง แต่ว่าจะมีอายุครบครึ่งศตวรรษพรุ่งนี้ ถ้าพูดว่าครึ่งศตวรรษก็ดูรู้สึกว่าน่ากลัว แต่ถ้าพูดว่าอายุ๕๐ ปี๕๐ ขวบ ก็ไม่น่ากลัว อันนี้ก็เป็นข้อสังเกตอันแรกว่า สิ่งเดียวกันถ้าพูดคนละอย่างกัน มันก็ดูแตกต่างกันได้ ฉะนั้นการพูดหรือการทําอะไรที่เหมือนกัน แต่ว่าพูดไปคนละอย่างเล็กน้อย แต่หมายถึงสิ่งอย่างเดียวกันอาจจะทะเลาะกันโดยไม่มีสิ้นสุด การทะเลาะแบบนี้เป็นการทะเลาะที่เสียแรงอย่างยิ่ง เสียทั้งแรงกายใจ ทั้งแรงอื่น ๆ ด้วยอย่างมาก ฉะนั้น ท่านทั้งหลายที่มาในวันนี้มาให้พร แสดงปรารถนาดีนี้ก็ขออดทนอีกเล็กน้อยในการฟังข้อสังเกตต่าง ๆ

          ที่จะพูดถึงความปรารถนาดีหรือไม่ดีนี้ แต่ละคนก็มีปรารถนา จะเรียกว่าดีหรือไม่ดีไม่ได้ไม่ทราบว่าจะพูดอย่างไร เพราะว่าคนหนึ่งพูดมาอย่างหนึ่ง ก็เป็นของดีอีกคนหนึ่งพูดมาอีกอย่างหนึ่ง ก็เป็นของดีเหมือนกัน แต่มาทะเลาะกัน จึงบอกว่าปรารถนาดีหรือไม่ดี เพราะว่าแต่ละคนมีทัศนะของตัว ขอใช้คําว่ามีจุดทัศนะของตัวหมายความว่าจุดทัศนาหมายความว่าจุดที่ตัวยืนอยู่ ทั้งทางกายทั้งทางใจ และมองคนอื่น ตัวเรานะไม่เห็นแต่มองคนอื่น บางคนก็เห็นข้างหน้า บางคนก็เห็นข้าง ๆ บางคนก็เห็นข้างหลัง หมายความว่าจากจุดทัศนาหรือทัศนะของแต่ละคน จะเห็นคนอื่นหรือสิ่งอื่นไม่เหมือนกัน แต่ละคนจะมีความคิด แต่ละคนจะมีความเห็นแตกต่างกัน ข้อนี้เป็นสิ่งสําคัญ ไม่ทราบว่าท่านทั้งหลายจะคิดหรือไม่คิด แต่ว่าถ้าฟังไปแล้วเอาไปคิดก็ได้ถ้าไม่คิดก็ไม่เป็นไร อย่างนี้ที่เป็นสิ่งที่สําคัญที่สุดเพราะว่า ตามที่ได้กล่าวเมื่อตะกี้ว่า แต่ละคนจะสามัคคีกัน จะตั้งอยู่ในความสามัคคีช่วยร่วมแรงกัน เพื่อที่จะปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์

          เป็นประโยชน์ต่ออะไร ตอนนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมหรือต่อชาติบ้านเมือง ก็เชื่อ เพราะเชื่อว่าท่านทั้งหลายก็มีความปรารถนาดีโดยแท้ไม่ใช้ดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ดีโดยแท้ว่าจะตั้งใจที่จะเข้าหากัน ร่วมแรงกันปฏิบัติงานเพื่อส่วนรวม แต่ข้อที่ลําบากในการทําดีเพื่อส่วนรวมนี้ เพราะว่าปรารถนาดีหรือไม่ดีนี้คืออีกอย่างหนึ่งไม่ใช่แท้ ที่แล้วแต่จุดทัศนาหรือทัศนะของแต่ละคน ทําให้การปฏิบัติของแต่ละคนแตกต่างกัน อาจจะเกิดความไม่เข้าใจกันได้ และจะเกิดความเสียหายใหญ่หลวงต่อส่วนรวมได้ เพราะแต่ละคนจะปฏิบัติงานเพื่อส่วนรวม เพื่อประเทศชาติ แต่จุดทัศนานี้ไม่เหมือนกัน เมื่อไม่เหมือนกันก็จะต้องปะทะกัน ปะทะกับคนที่สมมุติว่ามองดู๒ คน คนที่ ๓ ที่เป็นผู้มองดูจะเห็นทั้ง ๒ คนพร้อมกัน แต่ใน ๒ คนนั้น ที่กําลังทะเลาะกันหรือเจรจากัน จะมองเห็นคนหนึ่งจะเห็นอีกคนหนึ่ง แต่คนที่ ๓ จะเห็นทั้ง ๒ คน ตรงนี้ถ้าดูในทัศนะของคนที่ ๓ นี้เวลาเขาทะเลาะกัน ๒ คนนั้น อาจจะมีความเห็นเหมือนกัน ถือความคิดเหมือนกัน แต่ความเห็นไม่เหมือนกันก็ทะเลาะกัน คนหนึ่งบอกว่าชาติอยู่ข้างซ้าย คนหนึ่งบอกว่าชาติอยู่ข้างขวา ก็ทะเลาะกันอยู่นั้นว่าซ้ายหรือขวา จะเอาอะไร ให้ประเทศชาติเป็นซ้ายหรือเป็นขวา ได้ทั้งนั้น เพราะประเทศชาตินะไม่ใช่ซ้ายไม่ใช่ขวาจะว่าเป็นกลางก็ไม่ใช่ ฉะนั้น ถ้าเอาคําพูดที่เป็นปริศนาเล็กน้อยไปพิจารณา ก็อาจจะเห็นได้ว่า การที่ได้กล่าวว่าทุกคนขอตั้งสัตย์ที่จะปฏิบัติงานเพื่อประเทศชาติ ไม่ใช่ประเทศชาติก็งานเพื่อฉลองพระเดชพระคุณ ว่าจะสามัคคีกันร่วมแรงกันนี้ หนักใจเพราะเหตุนี้เองแต่ละคนตั้งใจดีแล้วมาตีหัวกัน มันเป็นสิ่งที่แก้ไขได้โดยที่แต่ละคนตั้งใจดีแล้วพิจารณาตัวเองบ้าง อันนี้เป็นข้อสังเกตที่เมื่อเข้ามาในสถานที่แล้ว และมาพบปะกับท่านทั้งหลายก็เกิดความคิดขึ้น

          เกี่ยวข้องกับความคิดอื่น ๆ ก็คิดเหมือนกัน คิด มีความคิดอีกเยอะแยะว่า ที่เข้ามานี้ก็พูดถึงความสามัคคีอีกนั่นแหล่ะ ท่านทั้งหลายได้สามัคคีกัน มอบให้บุคคลท่านหนึ่งเป็นผู้กล่าว และข้อนี้ก็ทําให้ปลาบปลื้ม เพราะว่าแสดงให้เห็นว่าท่านได้จัดอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราว เพราะว่าถ้าทุกคนมาด้วยเจตนาที่จะมาถวายพระพรแต่ละคนก็ต้องตะเบ็งถวายพระพร ไม่รู้เรื่อง แต่ว่าได้มอบให้มีผู้แทนท่านหนึ่งเป็นผู้กล่าว ก็รู้เรื่อง ตอนนี้ก็อาจจะทําให้แต่ละคนเห็นว่าคํากล่าวนี้ไม่ถูกใจ อาจจะไม่ถูกใจก็ได้

          ก็เห็นใจผู้กล่าว เพราะว่าพยายามที่สุดแล้วตั้งใจที่สุด ที่จะกล่าวความรู้สึก หรือความตั้งใจของแต่ละคน แต่ลําบากมากเพราะแต่ละคนคิดต่างกัน อยู่ในตําแหน่ง อยู่ในที่ต่างกัน ฉะนั้น ที่เข้ามาในนี้ก็เกิดความรู้สึก ก่อนเข้ามาก็รู้สึกแล้วว่าผู้ที่นั่ง ไม่ได้นั่ง ผู้ที่ยืน ที่จริงน่าจะนั่งดีกว่า ไม่เมื่อย ผู้ที่ยืนอยู่ในนี้เป็นผู้ที่ได้มาอยู่ข้างหน้า ต่อหน้า หรืออย่างเลวที่สุดอยู่ข้าง ๆ แต่ผู้ที่อยู่ข้างนอกก็อยู่ข้างหลัง หมายความว่าข้างนอกเขาได้ยิน เพราะว่าเป็นห่วงว่าพูดอย่างนี้ข้างนอกเขาจะไม่ได้ยิน บางทีตั้งไมโครโฟน ตั้งเครื่องขยายไม่ได้ความ แต่ถ้าได้ยินก็ขอให้ฟังว่า ผู้ที่อยู่ข้างนอกก็มีโชคดีมากกว่าคนที่อยู่ข้างใน เพราะว่าคนที่อยู่ข้างนอกนะเขานั่งได้ความจริงคนที่อยู่ข้างใน ใครอยากจะนั่งก็นั่งได้ไม่ขัดข้อง แต่คนที่อยู่ข้างนอก เขานั่งได้เขาเดินได้คนที่อยู่ข้างในนี้ไม่ได้นั่ง ไม่ได้เดิน ความจริงนั่งได้แต่ก็อาจจะนั่งทับกันเพราะว่าแน่นขนัด ถ้าเดินก็ขวักไขว่กัน

          อันนี้ไปนอกเรื่องมากหน่อย ความจริงไม่มีเรื่องหรอกวันนี้ฉะนั้นก็เดินนอกเรื่องก็ไม่เป็นไร แต่คนที่อยู่ข้างนอกนั้นก็ได้มาเจอก่อน แล่นรถมาแล้วเขาบอกให้หยุด มีตํารวจห้ามปรามไม่ให้แล่นต่อไป ก็หยุด หยุด มีผู้มาเปิดประตู เปิดประตูแล้วก็เดินไม่ได้ประตูมันกั้น เสร็จแล้วก็ผ่าน ก็พอเดินได้แต่ดูไม่เห็นเพราะมันมืด ต่อไปก็เดิน ๆ ไปมองไม่เห็น เพราะมันสว่าง ถูกฉายไฟใส่หน้าเลยไม่เห็นใคร ต่อไปเมื่อปิดไฟก็ไม่เห็นอะไรเพราะว่าตาฟาง ก็ต้องขออภัยเหมือนกันต่อผู้ที่อยู่ข้างนอก ว่าเดินไปเดินมานะไม่เห็นอะไร ก็รู้ว่ามีคนจํานวนมากที่ปรารถนาดียิ้มแย้มแจ่มใสกระมัง แล้วก็เดินไปในที่สุดก็วกไปเวียนมา แล้วเข้ามาในอาคาร ในเวลานั้นก็เกิดความรู้สึกความคิดที่จะบอกเป็นข้อสังเกตว่า ผู้ที่อยู่ข้างนอกนั้น กับอยู่ข้างใน ก็อยู่ในฐานะหรือที่ไม่เหมือนกันนี่อีก กลับมาเรื่องเดิม ไม่เหมือนกันแล้วก็อาจจะมีความไม่พอใจก็ได้เพราะว่าคนที่อยู่ข้างนอกก็อยากจะอยู่ข้างใน คนที่อยู่ข้างในนี้ก็อาจจะอยากไปอยู่ข้างนอกก็ได้ คนที่อยู่ข้างหน้า ก็อาจจะอยากอยู่ข้างหลัง คนที่อยู่ข้างหลังก็อาจจะอยากอยู่ข้างหน้า ไม่มีความพอใจสักนิดเดียว แต่ว่าก็ต้องจัดระเบียบอะไรอย่างที่จะให้ความปรารถนาของแต่ละคนได้ผลพอสมควร ถึงจัดอย่างนี้ ความจริงมาถึงแล้วก็มีการหยุดรถ ก็ไม่ทราบว่าเขาจัดอย่างไร

          ก็ต้องยอมรับว่า วันนี้ไม่ทราบว่าวันนี้จะมาพบกันอย่างไร คือแบบไหนจะยืนหรือจะนั่ง จะมีจํานวนคนข้างนอกมากหรือน้อย ข้างในนี้มากหรือน้อยแค่ไหนไม่ทราบ ทราบว่ามีมาก ทราบว่ามีหลายคณะ และเมื่อมาถึงก็มีความรู้สึกนี้ว่าต้องมีความไม่พอใจเกิดขึ้นแน่นอน ความไม่พอใจนี้เป็นของไม่ดีถ้ามีความไม่พอใจที่ไหน ความเดือดร้อนเกิดที่นั่น แต่ความไม่พอใจนี้เราจะต้องพิจารณาดูว่าไม่พอใจในเรื่องอะไร และจะแก้ไขอย่างไร ควรจะแก้ไขหรือไม่ ประการใด อันนี้คือความคิดที่เข้ามาในสมอง จึงแสดงออกมาเป็นข้อสังเกตว่า คนเรา ความพอใจแท้ๆ จะไม่ได้สักคนเดียว เพราะว่าถ้าคนไหนมีความพอใจแท้ ๆ ผู้นั้นพูดขี้ปด เพราะว่าไม่มีใครที่มีความพอใจแท้ๆ แม้จะเป็นพระอรหันต์จะเรียกว่าจะมีความพอใจแท้ ๆ ก็ไม่ได้ เพราะว่าพระอรหันต์มีความสําเร็จไม่ใช่ความพอใจ มีความสําเร็จว่าไม่ต้องพอใจแล้ว

          ฉะนั้น คนที่มีความพอใจไม่พอใจนี้ก็ลําบากที่จะให้พอใจจริง ๆ ทุกคน แม้แต่คนเดียวก็มีความพอใจลําบาก นี่ความคิดเกิดขึ้นอย่างนี้ จึงมาคิดว่าถ้าใครในที่นี้มีเกิดความไม่พอใจขึ้นมา ก็ขอบอกว่าขออภัย แต่ว่าแก้ยาก แล้วก็วิธีที่จะทําให้ได้สําเร็จประโยชน์แล้ว คือได้มาและได้มากล่าวให้พรโดยวิธีการมีผู้รับมอบฉันทะเป็นผู้กล่าว อย่างนี้ก็เป็นวิธีอย่างหนึ่งจะทําให้ระงับความไม่พอใจ ถ้าระงับความไม่พอใจแล้ว ก็จะเกิดความพอใจพอสมควรแก่ตัว อันนี้เป็นข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่ง

          ข้อสังเกตต่อไป ก็เหมือนคล้าย ๆ ข้อสังเกตอันแรก ที่ว่าทําอย่างไรสําหรับให้บ้านเมืองเรามีความผาสุกเสียทีมีความมั่นคงเสียทีทุกคนคิด แต่ว่าตามเรื่องต่าง ๆ ที่ได้กล่าวเป็นข้อสังเกตเป็นข้อ ๆ ไม่ทราบว่ากี่ข้อแล้วเรื่องของการทํา วางตัวของแต่ละคนนี้ยากนักที่ปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามหน้าที่และตามโอกาส ให้ถูกต้องให้เป็นประโยชน์อาจจะนึกว่าจะพูดว่าให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ใช่แล้ว เพื่อประโยชน์ส่วนรวม เพราะเหตุว่าประโยชน์ส่วนรวมนี้เป็นประโยชน์ส่วนตัว แต่ละคนต้องการให้ประโยชน์ส่วนตัวสําเร็จ คือมีความพอใจนี่เอง แต่ว่าถ้าไม่คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม ก็ไม่ได้ประโยชน์ส่วนตัว เพราะว่าถ้าส่วนรวมไม่ได้รับประโยชน์ส่วนตัวพังแน่ นี่เป็นข้อที่สําคัญ ฉะนั้นความรู้สึกหรือข้อสังเกตอันนี้เป็นจุดสําคัญมาก ที่จะต้องทําความเข้าใจกับตัวเอง ว่าประโยชน์ส่วนตัวนั้นคือประโยชน์ส่วนรวม หรือจะว่าประโยชน์ส่วนรวมนั้นคือประโยชน์ส่วนตัว พูดได้กลับได้บางคํากลับไม่ได้นะ แต่คํานี้กลับได้ประโยชน์ส่วนรวมหรือประโยชน์ส่วนตัว ประโยชน์ส่วนตัวคือประโยชน์ส่วนรวม

          อันนี้ก็เป็นข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่ง ที่ว่าการจัดงานในวันนี้อาจจะไม่เรียบร้อยนัก แต่ว่าทุกคนก็ทราบดีและได้รับฟังตามรายชื่อคณะของผู้ที่เข้ามา คณะต่าง ๆ นี้ก็มีหน้าที่การงานอาชีพแตกต่างกัน และมีส่วนใหญ่ที่มีอาชีพอย่าง แล้วก็ปฏิบัติหน้าที่อีกอย่างหนึ่ง คือหมายความว่าพวกสมาคม มูลนิธิต่าง ๆ ที่ได้ปฏิบัติงาน พวกอาสาสมัครต่าง ๆ ก็หมายความว่าในที่นี้มีคนที่มีงานการ มีฐานะต่าง ๆ กัน แต่พร้อมเพรียงกัน ก็เป็นการแสดงความสามัคคีปรองดองกัน จึงเป็นที่อุ่นใจและเป็นกําลังใจของผู้ที่อายุจะครึ่งศตวรรษ และข้อนี้เป็นข้อสุดท้ายที่จะกล่าว ก็เพราะว่ารู้สึกว่าออกจะนานไปหน่อยแล้ว ที่ท่านทั้งหลายมาในวันนี้ได้ให้กําลังใจจึงขอขอบใจ และขอให้ท่านทั้งหลายได้รับผลของการที่ท่านมาแสดงความปรารถนาดี เพราะบอกแล้วตั้งแต่ต้นว่าท่านนําความปรารถนามา ส่วนใหญ่ก็จะเป็นปรารถนาดีส่วนน้อยหรือไม่มีเลยเป็นปรารถนาร้าย แต่ว่าปรารถนาดีหรือร้ายก็ตาม เมื่อปรารถนาดีหรือร้ายมันก็กระดอนไปกับตัว ถึงตัว เพราะว่าผู้ที่มีจิตใจที่ปรารถนาดีย่อมรับความปรารถนาดีใครปรารถนาร้ายย่อมรับความปรารถนาร้าย ผู้ที่เป็นเป้าหมายไม่รู้สึก เพราะว่ารับแต่ปรารถนาดี ถ้าผู้ใดเป็นนักวิทยาศาสตร์ คือที่ทําไมรับแต่ปรารถนาดีเพราะว่ามีไดโอดมีเครื่องรับเข้ามาทางเดียว รับแต่ปรารถนาดี ปรารถนาร้ายไม่รับ รู้เหมือนกันแต่ไม่รับเพราะไม่มีความจําเป็น ฉะนั้นก็ขอขอบใจท่านที่ท่านมาแสดงความปรารถนา จะดีจะร้ายไม่เป็นไร แต่แสดงความปรารถนาและทําให้มีกําลังใจที่จะปฏิบัติงานต่อไป และเมื่อบอกว่ามีกําลังใจที่จะปฏิบัติงานต่อไป

          ก็ขอให้ท่านทั้งหลายมีกําลังใจด้วยกัน เพราะว่าทําอยู่คนเดียวไม่ได้ไม่ใช่โอ้อวดว่าทําอยู่คนเดียว แต่เพราะว่าประเทศชาติของเรา ส่วนร่วมของเรา ไม่ได้อยู่ที่คนเดียว สําหรับตัวเองไม่เคยนึกเลยอยู่คนเดียวประเทศชาติประกอบด้วยประชาชน ถ้าไม่มีประชาชนก็ไม่ใช่ประเทศ ฉะนั้นก็ขอให้ทุกท่านมีกําลังเช่นเดียวกัน ได้แสดงความปรารถนาดีมาให้เป็นกําลังใจ ขอให้ปรารถนาดีของแต่ละคน แผ่ออกไปทั่วทุกทิศ ให้ทุกคนได้รับปรารถนาดีเกื้อหนุนกัน และเป็นกําลังใหญ่หลวง อย่างนี้ไม่ต้องเป็นห่วงอย่างไรเลย ไม่ต้องบอกว่าปรารถนาดี มาให้กําลังใจสําหรับทํางานอะไร ทุกคนทราบแล้ว

          ฉะนั้น ก็ขอให้ทุกคนจงทําอะไรแล้วมีผลสําเร็จทุกประการ พร้อมด้วยกําลังกาย กําลังใจ ไม่มีเจ็บไม่มีไข้ไม่มีอันตรายใด ๆ มากล้ํากราย และขอขอบใจ

**ไฟล์ PDF ที่แจกถูกพิมพ์คัดลอกมาจากเอกสารจริงโดยอาสาสมัคร หากผิดพลาดประการใดเพจ "สานต่อที่พ่อทำ" ขออภัยมา ณ ที่นี้

เรียบเรียงโดย : เรื่องเด็ดเจ็ดย่านน้ำ
ที่มา : FB @สานต่อที่พ่อทำ
อ้างอิง : ลิ๊งค์ไฟล์ PDF

กดถูกใจเพจเพื่อติดตามอัพเดททุกเรื่องเด็ด
บอกต่อเรื่องนี้ให้เพื่อนคุณ


About เรื่องเด็ดเจ็ดย่านน้ำ

ขอบคุณทุกเรื่องเด็ด และเรื่องราวดีๆ จากทุกแง่มุมในสังคม เราจะหามาแชร์และส่งต่อให้เพื่อนบนโลกโซเชียลได้รับรู้ รับทราบกันอย่างทั่วถึง คุณเองก็สามารถทำได้ "กดแชร์" เรื่องเด็ดที่คุณชอบเลยสิ!