เช็คตัวเองด่วน!! วิธีสังเกตแบบแพทย์ รู้ให้ทันอาการบอกโรคก่อนร่างกายจะทรุดหนัก




"สุขภาพดีเริ่มต้นจากภายใน" คือการหมั่นบำรุงและตรวจเช็คสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ แต่ด้วยภาวะทางสังคมและช่วงเวลาเร่งด่วนตลอดทั้งวัน ทำให้เราอาจลืมบำรุงดูแลอวัยวะภายในบางส่วนของเราที่ต้องแบกรับภาระหนักหลบซ่อนอยู่ กระทั่งเสียหายสะสมความบกพร่องไว้จนกลายเป็นบ่อเกิดโรคร้ายที่ยากต่อการบำรุงรักษาให้กลับมาดีเหมือนเดิม

ร่างกายภายนอกสื่อถึงสุขภาพภายใน แน่นอนว่าตามทางการแพทย์แล้ว คุณหมอผู้เชี่ยวชาญสามารถสังเกตและวินิจฉัยการทำงานของอวัยวะภายในได้ในเบื้องต้น ด้วยการตรวจเช็คจากสภาพ-สภาวะของร่างกายจากภายนอกของเราได้ และนี่คืออาการเริ่มต้นอันอาจเป็นสาเหตุของโรคร้ายภายในต่างๆ ที่ร่างกายเรากำลังแสดงออกมาเป็นอาการให้เราได้รับรู้

นอนไม่หลับต่อเนื่อง
อาจเกิดจากถุงน้ำดีข้น หรือกระดูกคอข้อที่ 1 เคลื่อน หรือเลือดไม่ค่อยเลี้ยงหัวใจ เนื่องจากเป็นคนตื่นเต้นบ่อย



ผิวหนังเริ่มเปลี่ยนรูป
ผิวหยาบกร้าน มีขี้แมลงวันเพิ่มขึ้น มีติ่งเนื้อ หูด ตาปลาใหญ่ขึ้น สาเหตุมาจากลำใส้ใหญ่สกปรก



ปัสสาวะเริ่มมีกลิ่นแรง
กลิ่นฉุนมากเกิดจากไตไม่ดี ต่อมลูกหมากโต มีปัสสาวะคั่งค้าง



ปวดสะบักหลัง-ปวดเอว
หมายถึงถุงน้ำดีข้น ระบบดูดซึมอาหารในร่างกายกำลังมีปัญหา



ปวดแน่นหน้าอก
หากเกิดขึ้นเวลานอนราบหรือเอนหลัง อาจเกิดจากปัญหาหัวใจไม่แข็งแรง ไตหรือกระเพาะอาหารกำลังมีปัญหา



ปวดแน่นใต้ราวนมขวา
หมายถึงน้ำเหลืองไม่ดี สาเหตุมาจากมีอุจจาระตกค้างมาก หรือถ่ายไม่หมดเป็นประจำ ท้องผูก อีกสาเหตุคือแก๊สในกระเพาะดันกระบังลม หรือสำรอกอาหาร



ปวดหลังเหนือบันเอวทั้งสองข้าง
นอกจากท่านั่งไม่ถูกต้อง ยกของหนักหรือออกกำลังกายมากเกินไปแล้ว หากปวดหลังบริเวณเหนือบั้นเอวทั้งสองข้าง หมายไตมีปัญหา อาจคลำพบก้อนบริเวณไต หากปัสสาวะมีสีขุ่นเลือดปน เป็นสัญญาณเตือนบอกโรคถุงน้ำในไต เกิดภาวะความดันโลหิตสูง ไตอาจติดเชื้อได้ง่ายและไตวาย



ภาวะอุนหภูมิของร่างกายแปรปรวน
เหงื่อออกง่าย
เหงื่อออกที่ฝ่ามือ เหงื่อออกที่บริเวณหน้าอกแต่ตัวเย็น หมายถึงภาวะหัวใจไม่แข็งแรง ฮอร์โมนไม่ปกติ

ขี้ร้อน 
หมายถึงไตซ้ายเริ่มมีปัญหา หากเสื่อมจะกระทบถึงสมองซีกขวาซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับการจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์หรือการคิดบวกด้อยคุณภาพลง หรือขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน ระบบความร้อนที่ใช้เผาผลาญในร่างกายบกพร่อง

ขี้หนาว 
หมายถึงไตขวาเริ่มมีปัญหา หากเสื่อมจะกระทบถึงการทำงานของสมองซีกซ้ายที่ทำหน้าที่เก็บความจำ คำนวณ จับประเด็น สมาธิสั้นลง



หิวจัดจนทนไม่ได้
ถ้าหิวขึ้นมาแล้ว มีอาการกระวนกระวายใจ โมโหหิว ขาดสมาธิจนถึงเครียดเหงื่อออก นั่นหมายถึงกำลังจะเป็นเบาหวาน



ผมร่วง
หมายถึงภาวะฮอร์โมนไทยรอยด์ในร่างกายผิดปกติ สาเหตุจากไม่กินอาหารเช้า จะทำให้ สมองเสื่อม หน้าแก่เร็ว คออักเสบง่าย ร้อนใน ปวดไหล่ กล้ามเนื้อเหลว กระดูกคอ กระดูกสะโพกเคลื่อนง่าย เข่าไม่ดี น่องเหลว น่องทู่ ปวดข้อเท้า ภาวะวิตกง่าย อารมณ์ขี้โมโห หากน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว เหงื่อออก ใจสั่นรวมด้วยควรรีบพบแพทย์



ตากุ้งยิงอักเสบ
เป็นเม็ดฝีหรือบวมอักเสบที่หนังตาโดยรอบ หมายถึงไขมันในเลือดสูงผิดปกติ ภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำลง สู่โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง



มีกลิ่นตัว
เกิดจากลำใส่ใหญ่สกปรก ท้องผูก มีสิ่งตกค้างมากจนซึมเข้าระบบเลือด และมีกลิ่นออกทางเหงื่อ ปากและลมหายใจ



ขยับตัวไม่ได้ชั่วขณะในขณะนอน
หรืออาการที่เรียกว่าผีอำ คล้ายอาการอัมพฤกษ์ ส่วนใหญ่เกิดจากเส้นเลือดตีบไม่ไปหล่อเลี้ยงประสาทสั่งการ ประกอบกับท้องผูก การขับถ่ายไม่ดี เวลาเบ่งอุจจาระ จะเพิ่มอันตรายจากการคั่งของเลือดในเส้นเลือดฝอย อาการหนักอาจทำให้เกิดเส้นเลือดตีบตัน หรือเส้นเลือดแตกจนหน้ามืดหมดสติล้มฟาดพื้นได้



อาการที่มือแบ่งออกเป็นส่วนๆ ดังนี้
กดลงที่กลางฝ่ามือ
ถ้าเจ็บ หมายถึงกระเพาะ ตับ และระบบย่อยอาหารมีปัญหา

ปวดข้อนิ้วโป้ง
หมายถึงไขข้อกระดูกสันหลังมีปัญหา มีไขมันในเลือดมาก

กดเนื้อใต้นิ้วโป้ง
ถ้าเจ็บ หมายถึงหัวใจโต เยื่อหุ้มหัวใจมีปัญหา

กดใต้นิ้วกลาง 
ถ้าเจ็บ หมายถึงสมองเครียด ขาดเลือดและออกซีเจน

กดใต้ร่องนิ้วนางกับนิ้วก้อย 
ถ้าเจ็บ หมายถึงปอด ถุงลมมีปัญหา

กดเนื้อสันมือใต้นิ้วก้อย
ถ้าเจ็บ หมายถึงลำไส้ ระบบดูดซึม ระบบขับถ่ายมีปัญหา ท้องผูกจนถึงเป็รริดสีดวง

กดบริเวณเหนือข้อมือ
ถ้าเจ็บ หมายถึงไต กระเพาะปัสสาวะมีภาวะรับสาวพิษ ร่างกายขาดน้ำ



มือสั่น
นอกจากสาเหตุภาวะร่างกายขาดแร่ธาตุและน้ำ อาจหมายถึงสมองมีอาการผิดปกติหลั่งสารโดปามีนที่ทำหน้าที่สื่อประสาทมากหรือน้อยเกินไป อาการหนักอาจหมายถึงเนื้องอกในสมอง

เล็บมีดอกขาว
หมายถึงโลหิตจาง ร่างกายกำลังขาดธาตุเหล็ก

เหน็บชา
ถ้าเป็นตามแขน ขา เกิดจากเลือดไหลเวียนไม่ดี หรือมีพยาธิ ปริมาณน้ำหรือเลือดในร่างกายน้อย หมั่นกินข้าวซ้อมมือหรือวิตามินบีเพิ่ม

ตะคริว
สาเหตุมาจากหัวใจไม่แข็งแรง ให้งดกิน ถั่ว ข้าวเหนียว ของดอง
   - ตะคริวบก ขาดโปรแตสเซียม ให้กินผลไม้สดมากๆ
   - ตะคริวน้ำ ให้ดื่มน้ำเกลือแร่ หรือเกลือแกงป่น 1 ช้อนชาละลายในน้ำอุ่น




อาการที่เข่าแบ่งออกเป็นส่วนๆ ดังนี้
ปวดเข่าด้านนอก
หากปวดขึ้นมาถึงสะโพก หรือโคนขา หมายถึงถุงน้ำดีข้น ดื่มน้ำน้อยไปหรือดื่มน้ำเย็นจัดมากเกินไป ระบบดูดซึมภายในร่างกายจึงไม่ดี อันมาจากการกินของผัดอย่างเช่นน้ำมันพืช เพราะน้ำมันพืชที่ถูกความร้อนจะแปรสภาพเหนียวเกาะที่ลำไส้ ทำให้สารอาหารและน้ำซึมผ่านไม้ได้

ปวดเข่าด้านหน้า 
หมายถึงกระเพาะอาหารไม่ดี กินอาหารไม่ตรงเวลา หรือมีความวิตกกังวลบ่อย อยู่ในภาวะเครียดนานเกินไป

ปวดเข่าด้านใน 
หากปวดด้านที่เข่าชนกัน หมายถึงปัญหาภายในหลายด้าน เช่น
   - ม้ามมีปัญหา ท้องผูก เพราะเป็นเบาหวาน โรคอ้วน
   - ตับมีปัญหา เพราะกินหวาน ขี้โมโหบ่อย ร่างกายกำลังได้รับสารพิษ
   - ไตมีปัญหา เพราะกินรสจัด หรือกินอาหารผัดน้ำมันมากไป

ปวดข้อเข่า
ให้ตื่นเช้าเอาน้ำเย็นรดตามข้อ สลายหินปูนเกาะได้กระตุ้นการขับถ่ายด้วย



ปวดใต้ฝ่าเท้า
หากปวดบริเวณเลยกลางฝ่าเท้าขึ้นมาทางปลายนิ้ว หมายถึงปอดไม่แข็งแรง หากปวดบริเวณต่ำลงมาทางส้นเท้าและมีอาการบวมอักเสบ หมายถึงผังผืดใต้ฝ่าเท้ารับน้ำหนักมากเนไป

ปวดด้านข้างนอกฝ่าเท้า
เป็นอาการของตับไม่ดี ถุงน้ำดีข้น นอนไม่หลับ ปวดหู ไมเกรน



พอรู้อย่างนี้แล้ว หวังว่าผู้อ่านคงได้ลองสำรวจตัวเองบ้าง และบำรุงดูแลร่างกายเราจากภายใน แต่หากบำรุงดูแลอย่างต่อเนื่องแล้วอาการยังไม่ทุเลาดีขึ้น ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจให้ละเอียดและทำตามคำแนะนำจากแพทย์อย่างเคร่งครัดด้วย


เรียบเรียงโดย : เรื่องเด็ดเจ็ดย่านน้ำ
ขอบคุณข้อมูล :
ศุนย์ข้อมูลสุขภาพ โรงพยาบาลรามาธิบดี
สโมสรรักสุขภาพ โรงพยาบาลพญาไท


กดถูกใจเพจเพื่อติดตามอัพเดททุกเรื่องเด็ด
บอกต่อเรื่องนี้ให้เพื่อนคุณ


About เรื่องเด็ดเจ็ดย่านน้ำ

ขอบคุณทุกเรื่องเด็ด และเรื่องราวดีๆ จากทุกแง่มุมในสังคม เราจะหามาแชร์และส่งต่อให้เพื่อนบนโลกโซเชียลได้รับรู้ รับทราบกันอย่างทั่วถึง คุณเองก็สามารถทำได้ "กดแชร์" เรื่องเด็ดที่คุณชอบเลยสิ!